|
ห้องเอ็กซเรย์
|
|
|
ห้องตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์
|
|
|
สถานที่ตั้ง บริเวณ ชั้น 2 อาคารคุ้มเกล้า ภายในแผนกเอกซเรย์ ห้องตรวจหมายเลข 11 และหมายเลข 12 (เดินตามเส้นสีแดง) หมายเลขโทรศัพท์ 02 –5347215 เอกซเรย์คอมพิวเตอร์คือการใช้รังสีเอกซเรย์ส่งผ่านอวัยวะที่ต้องการตรวจไปยังหัววัดรังสี เพื่อเก็บข้อมูลส่งไปยังคอมพิวเตอร์จะทำการประมวลข้อมูลเพื่อสร้างเป็นภาพอวัยวะนั้นๆออกมาเป็นภาพในระนาบต่างๆเพื่อใช้ในการวินิจฉัยของรังสีแพทย์ |
|
|
ใช้ในการตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ทุกส่วนของร่างกายในเวลาราชการและนอกเวลาราชการ
(นอกเวลาเฉพาะในรายที่เร่งด่วน) ใช้ในการตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์บริเวณศีรษะทั้งในและนอกเวลาราชการ ใช้ในการเจาะชี้นเนื้อส่งตรวจ โดยใช้เอกซเรย์คอมพิวเตอร์เป็นตัวบอกตำแหน่งของก้อนเนื้อ
การปฏิบัติตัวสำหรับผู้ป่วยที่มารับการตรวจด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ |
การนัดตรวจ สถานที่นัดตรวจ - แผนกเอกซเรย์ชั้น 2 หน้าห้องหมายเลข 12 เอกสารในการขอนัดตรวจ - ใบคำขอการตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์จากแพทย์ - ใบแบบฟอร์มสิทธิในการเบิกค่าใช้จ่าย เช่น บัตรทอง ประกันสังคม เป็นต้น(ถ้ามี)
ข้อมูลการซักประวัติที่เจ้าหน้าที่ต้องการทราบ - การแพ้สารทึบรังสี (ในรายที่เคยได้รับการตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์มาแล้ว) - การแพ้อาหารทะเล - โรคหอบหืด ลมบ้าหมู - อายุมากกว่า 70 ปี - แพ้ยา ภูมิแพ้ - โรคหัวใจ - โรคเลือด - โรคเบาหวาน - โรคไตเรื้อรัง - การตั้งครรภ์หรือประจำเดือนครั้งสุดท้าย - อาการหนัก หรือช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ - ในรายผ่าตัดลำไส้เปิดหน้าท้องกรุณาแจ้งเจ้าหน้าที่
** การซักประวัติจะมีประโยชน์ต่อความปลอดภัยของผู้ป่วยในการเข้ารับการตรวจ**
เอกสารที่ต้องนำมาในวันตรวจ - ใบนัดตรวจที่เจ้าหน้าที่ได้ให้ไว้ในวันนัดตรวจ พร้อมลายเซ็นยินยอมการตรวจ - ใบแบบฟอร์มสิทธิในการเบิกค่าใช้จ่าย (ถ้าในวันนัดไม่ได้นำมา) - สารทึบรังสีและอุปกรณ์ที่เจ้าหน้าที่ให้ซื้อในวันนัดตรวจ
เอกสารที่ต้องนำมาในวันรับผลการตรวจ - ใบนัดรับผล หรือบัตรผู้ป่วย - ถ้าใบนัดรับผลของท่านหายกรุณาจำวันที่ท่านได้รับการตรวจเพื่อความสะดวกในการหาผลตรวจของท่าน
** ในวันนัดตรวจกรุณาซักถามเจ้าหน้าที่ให้เข้าใจ หรือ โทรศัพท์ 02 5347215 ในวันและเวลาราชการ**
การปฏิบัติตัวสำหรับการตรวจด้วยเอกซเรย์คอมพิวเตอร์บริเวณศีรษะแบ่งเป็น
สมอง
กรณีที่ไม่ฉีดสารทึบรังสีและผู้ป่วย อุบัติเหตุ |
- ไม่ต้องเตรียมตัวในการเข้ารับการตรวจ |
กรณีที่ฉีดสารทึบรังสี |
- งดอาหารและน้ำดื่มก่อนการตรวจ 4-6 ชั่วโมง ยกเว้นยา - ถอดวัสดุที่เป็นโลหะออกจากบริเวณศีรษะ เช่น กิ๊บผม ต่างหู ฟันปลอม สร้อยคอ |
ุ ตา
กรณีที่ไม่ฉีดสารทึบรังสี |
- ไม่ต้องเตรียมตัวในการเข้ารับการตรวจ |
กรณีที่ฉีดสารทึบรังสี |
ี - งดอาหารและน้ำดื่มก่อนการตรวจ 4-6 ชั่วโมง ยกเว้นยา - ถอดวัสดุที่เป็นโลหะออกจากบริเวณศีรษะเช่นกิ๊บผม ต่างหู ฟันปลอม สร้อยคอ |
ต่อมใต้สมอง
กรณีที่ไม่ฉีดสารทึบรังสี |
- ไม่ต้องเตรียมตัวในการเข้ารับการตรวจ |
กรณีที่ฉีดสารทึบรังสี |
- งดอาหารและน้ำดื่มก่อนการตรวจ 4-6 ชั่วโมง ยกเว้นยา - ถอดวัสดุที่เป็นโลหะออกจากบริเวณศรีษะเช่นกิ๊บผม ต่างหู ฟันปลอม สร้อยคอ |
ไซนัสและโพรงจมูก
กรณีที่ไม่ฉีดสารทึบรังสี |
- ไม่ต้องเตรียมตัวในการเข้ารับการตรวจ |
กรณีที่ฉีดสารทึบรังสี |
- งดอาหารและน้ำดื่มก่อนการตรวจ 4-6 ชั่วโมง ยกเว้นยา - ถอดวัสดุที่เป็นโลหะออกจากบริเวณศรีษะเช่นกิ๊บผม ต่างหู ฟันปลอม สร้อยคอ |
การปฏิบัติตัวสำหรับการตรวจด้วยเอกซเรย์คอมพิวเตอร์บริเวณส่วนคอ
กรณีที่ไม่ฉีดสารทึบรังสี |
- ไม่ต้องเตรียมตัวในการเข้ารับการตรวจ |
กรณีที่ฉีดสารทึบรังสี |
- งดอาหารและน้ำดื่มก่อนการตรวจ 4-6 ชั่วโมง ยกเว้นยา - ถอดวัสดุที่เป็นโลหะออกจากศรีษะและคอ เช่น กิ๊บผม ต่างหู ฟันปลอม สร้อยคอ |
ี การปฏิบัติตัวสำหรับการตรวจด้วยเอกซเรย์คอมพิวเตอร์บริเวณส่วนทรวงอก
กรณีที่ไม่ฉีดสารทึบรังสี |
- ไม่ต้องเตรียมตัวในการเข้ารับการตรวจ - เปลี่ยนชุดของทางโรงพยาบาล - กลั้นหายใจตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ |
กรณีที่ฉีดสารทึบรังสี |
- งดอาหารและน้ำดื่มก่อนการตรวจ 4-6 ชั่วโมง ยกเว้นยา - ถอดวัสดุที่เป็นโลหะออกจากบริเวณช่วงอก เช่น สร้อยคอ - เปลี่ยนชุดของทางโรงพยาบาล - กลั้นหายใจตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ |
การปฏิบัติตัวสำหรับการตรวจด้วยเอกซเรย์คอมพิวเตอร์บริเวณช่องท้องส่วนบน
กรณีไม่ฉีดสารทึบรังสี |
- ดื่มน้ำ 1-1.5 ลิตร 1 ชั่วโมงก่อนตรวจ (ไม่ต้องกลั้นปัสสาวะ) - ทานยาระบายคืนก่อนตรวจ - เปลี่ยนชุดของทางโรงพยาบาล - กลั้นหายใจตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ |
กรณีฉีดสารทึบรังสี |
- งดอาหารและน้ำดื่มก่อนตรวจ 4-6 ชั่วโมง ยกเว้นยา(ไม่ต้องกลั้นปัสสาวะ) - ทานยาระบายคืนก่อนตรวจ - ดื่มน้ำ 1-1.5 ลิตร 1 ชั่วโมงก่อนตรวจ - เปลี่ยนชุดของทางโรงพยาบาล - กลั้นหายใจตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ |
การปฏิบัติตัวสำหรับการตรวจด้วยเอกซเรย์คอมพิวเตอร์บริเวณช่องท้องส่วนล่าง
กรณีไม่ฉีดสารทึบรังสี |
- ดื่มน้ำ 1-1.5 ลิตร 1 ชั่วโมก่อนตรวจ (ไม่ต้องกลั้นปัสสาวะ) - ทานยาระบายคืนก่อนตรวจ - เปลี่ยนชุดของทางโรงพยาบาล - กลั้นหายใจขณะตรวจ |
กรณีฉีดสารทึบรังสี |
- งดอาหารและน้ำดื่มก่อนตรวจ 4-6 ชั่วโมง - ทานยาระบายคืนก่อนตรวจ - ดื่มน้ำ 1-1.5 ลิตร 1 ชั่วโมง ก่อนตรวจ - เปลี่ยนชุดของทางโรงพยาบาล - กลั้นหายใจตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ **ในบางรายอาจให้รับประทานแป้งแทนการทานน้ำเปล่าขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ |
การปฏิบัติตัวสำหรับการตรวจด้วยเอกซเรย์คอมพิวเตอร์บริเวณช่องท้องทั้งหมด
กรณีไม่ฉีดสารทึบรังสี |
- ดื่มน้ำ 1-1.5 ลิตร 1 ชั่วโมงก่อนตรวจ (ไม่ต้องกลั้นปัสสาวะ) - ทานยาระบายคืนก่อนตรวจ - เปลี่ยนชุดของทางโรงพยาบาล - กลั้นหายใจตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ - สวนน้ำหรือน้ำผสมสารทึบรังสีเข้าทางทวารหนักขณะตรวจ |
กรณีฉีดสารทึบรังสี |
- งดอาหารและน้ำดื่มก่อนตรวจ 4-6 ชั่วโมง - ทานยาระบายคืนก่อนตรวจ - ดื่มน้ำ 1-1.5 ลิตร 1 ชั่วโมง ก่อนตรวจ - เปลี่ยนชุดของทางโรงพยาบาล - สวนน้ำหรือน้ำผสมสารทึบรังสีเข้าทางทวารหนักขณะตรวจ - กลั้นหายใจตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ **ในบางรายอาจให้รับประทานแป้งแทนการทานน้ำเปล่าขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ |
การปฏิบัติตัวสำหรับการตรวจด้วยเอกซเรย์คอมพิวเตอร์บริเวณกระดูกทุกส่วน
กรณีที่ไม่ฉีดสารทึบรังสีและตรวจแบบสามมิติ |
- ไม่ต้องเตรียมตัวในการเข้ารับการตรวจ |
กรณีฉีดสารทึบรังส |
- งดอาหารและน้ำดื่ม 4-6 ชั่วโมงก่อนการตรวจ - เปลี่ยนชุดของทางโรงพยาบาล |
การปฏิบัติตัวระหว่างการตรวจ การตรวจแต่ละส่วนจะใช้เวลาในการตรวจแตกต่างกันไปแล้วแต่อวัยวะในส่วนที่จะตรวจท่านผู้รับการตรวจควรปฏิบัติตัวดังนี้ 1. นอนในท่าที่เจ้าหน้าที่จัดให้ 2. ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ เช่นการกลั้นหายใจเข้า หายใจออก เพื่อไม่ให้ภาพที่ได้เกิดการไหว 3. ขณะตรวจเตียงจะเลื่อนเข้า- ออก พร้อมกับมีเสียงดังของเครื่อง 4. ในขณะฉีดสารทึบรังสี ท่านอาจจะมีอาการข้างเคียง เช่น คลื่นไส้อาเจียน เป็นต้น 5. ขณะตรวจท่านสามารถสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ได้โดยไมโครโฟนที่ติดอยู่กับเครื่อง
การปฏิบัติตัวหลังการตรวจ ในกรณีที่ฉีดสารทึบรังสี จะให้ผู้ป่วยพักดูอาการว่าแพ้สารทึบรังสีหรือไม่ประมาณ 30 นาที ถ้ามีอาการแพ้ จะมีรังสีแพทย์ รังสีเทคนิค และพยาบาลพร้อมด้วยอุปกรณ์ในการระงับอาการแพ้สารทึบรังสีให้แก่ท่านส่วนในรายที่ไม่แพ้จะอนุญาติให้กลับบ้านได้ สารทึบรังสีที่ฉีดเข้าไปในร่างกายจะถูกขับออกทางปัสสาวะดังนั้นควรดื่มน้ำสะอาดมากๆหลังการตรวจ
สารทึบรังสีที่ใช้ในการตรวจ คือ สารที่ใช้การการวินิจฉัยของรังสีแพทย์ เพื่อให้เกิดความแตกต่างของการทึบต่อรังสีในส่วนที่ต้องการตรวจและบริเวณใกล้เคียง เพื่อจะได้เห็นอวัยวะที่ต้องการตรวจได้ชัดเจน
|
วิธีการใช้สารทึบรังสี 1. ฉีดเข้าหลอดเลือดดำ 2 ซีซี ต่อน้ำหนัก 1 กิโลกรัม 2. น้ำดื่มผสมสารทึบรังสี หรือ แป้ง 3. สวนน้ำผสมสารทึบรังสีเข้าทางทวารหนัก
** การฉีดจะฉีดโดยใช้เครื่องฉีดสารทึบรังสีอัตโนมัติ**
|
|
|
|
|
|
|
|